ข้อตกลง Google Workspace (รุ่นที่ใช้งานฟรี)

Google ให้บริการ G Suite รุ่นที่ใช้งานฟรี หรือเรียกอีกอย่างว่า Google Apps รุ่นเดิมที่ใช้งานฟรี ก่อนวันที่ 6 ธันวาคม 2012 ซึ่งมีการตัดทอนฟีเจอร์ด้านธุรกิจบางส่วนออกไป และ Google ได้หยุดให้บริการรุ่นที่ใช้งานฟรีแก่ลูกค้าใหม่ในวันที่ 6 ธันวาคม 2012

ไปที่ข้อกำหนดในการให้บริการ Google Workspace ปัจจุบัน
ไปที่ข้อกำหนดในการให้บริการ Google Workspace for Education ปัจจุบัน

  • ข้อตกลง Google Workspace (รุ่นที่ใช้งานฟรี) ("ข้อตกลง") จัดทำขึ้นโดยและระหว่าง Google LLC ซึ่งเป็นบริษัทตั้งอยู่ที่เดลาแวร์และมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ 1600 Amphitheatre Parkway, Mountain View, California 94043 ("Google") และบุคคลที่ยินยอมตามข้อตกลงที่นี่ ("ลูกค้า") ข้อตกลงนี้มีผลควบคุมการเข้าถึงและการใช้บริการของลูกค้า และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่มีผลเป็นต้นไป ข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้ ณ วันที่ลูกค้าคลิกปุ่ม "ฉันยอมรับ" ด้านล่าง ("วันที่มีผล") หากคุณยอมรับข้อตกลงนี้ในนามของลูกค้า ถือว่าคุณรับรองและรับประกันว่า (1) คุณมีอำนาจตามกฎหมายโดยสมบูรณ์ในการลงนามผูกพันผู้ว่าจ้างหรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขเหล่านี้ (2) คุณได้อ่านและทำความเข้าใจข้อตกลงนี้แล้ว และ (3) คุณยอมรับข้อตกลงนี้ในนามของบุคคลหรือฝ่ายที่คุณเป็นตัวแทน หากคุณไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการลงนามผูกพันลูกค้า โปรดอย่าคลิกปุ่ม "ฉันยอมรับ" ด้านล่าง ข้อตกลงนี้มีผลควบคุมการเข้าถึงและการใช้บริการของลูกค้า

    • 1. บริการ

      • 1.1 สถานที่และการโอนข้อมูล สถานที่ทั้งหมดที่ใช้เพื่อเก็บและประมวลผลข้อมูลลูกค้าต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยอย่างสมเหตุสมผลซึ่งไม่ด้อยกว่ามาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของสถานที่ที่ Google ใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลประเภทคล้ายกันของตนเอง Google จะใช้ระบบและกระบวนการที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมเป็นอย่างน้อยเพื่อรักษาความปลอดภัยและรักษาความลับของข้อมูลของลูกค้า ป้องกันภัยคุกคามหรืออันตรายที่คาดไว้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยหรือความถูกต้องของข้อมูลของลูกค้า และป้องกันการเข้าถึงหรือการใช้งานข้อมูลของลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ในฐานะส่วนหนึ่งของการให้บริการ Google อาจมีการโอนย้าย จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลของลูกค้าในประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอื่นๆ ที่ Google หรือตัวแทนมีหน่วยงานอยู่ และลูกค้าใช้บริการโดยยินยอมให้มีการโอน ประมวลผล และเก็บข้อมูลลูกค้าดังที่กล่าวมา

      • 1.2 การแก้ไข

        • ก. บริการ Google มีสิทธิในการเปลี่ยนแปลง ระงับ หรือยุติส่วนใดๆ ของบริการได้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบ หาก Google ดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่เป็นสาระสำคัญกับบริการ Google ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบ โดยมีเงื่อนไขว่าลูกค้าได้สมัครรับข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่าน Google

        • ข้อตกลงนี้ Google สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อกำหนดและเงื่อนไขส่วนหนึ่งส่วนใดที่มีอยู่ในข้อตกลงนี้หรือนโยบายทั้งหมดที่มีผลควบคุมบริการเมื่อใดก็ได้ โดยจะโพสต์ข้อตกลงใหม่ที่ https://workspace.google.com/terms/standard_terms.html หรือ URL อื่นๆ ที่ Google อาจมีให้ ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อการตรวจสอบการปรับปรุงใดๆ ต่อข้อตกลงนี้เป็นประจำ การเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อตกลงนี้จะมีผลผูกพัน (1) ด้วยการยอมรับทางออนไลน์ของลูกค้าต่อข้อกำหนดที่ปรับปรุง หรือ (2) หลังจากที่ลูกค้าใช้บริการต่อไป หลังจากการปรับปรุงข้อกำหนดต่างๆ โดย Google

      • 1.3 การเป็นเจ้าของโดเมนของลูกค้า ก่อนให้บริการ Google ต้องยืนยันว่าลูกค้าเป็นเจ้าของหรือมีสิทธิในการควบคุมชื่อโดเมนของลูกค้า หากลูกค้าไม่ได้เป็นเจ้าของหรือควบคุมชื่อโดเมนของลูกค้า Google จะไม่มีภาระหน้าที่ในการให้บริการแก่ลูกค้า

      • 1.4 โฆษณา ลูกค้ายอมรับว่า Google แสดงโฆษณาร่วมกับการให้บริการได้

    • 2. ภาระหน้าที่ของลูกค้า

      • 2.1 การปฏิบัติตามข้อกำหนด ลูกค้าต้องใช้บริการตามนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ Google อาจเปิดให้บริการแอปพลิเคชัน ฟีเจอร์ หรือฟังก์ชันการทำงานใหม่สำหรับบริการเป็นครั้งคราว โดยการใช้งานอาจขึ้นอยู่กับการยินยอมปฏิบัติตามข้อกำหนดเพิ่มเติมโดยลูกค้า นอกจากนี้ Google ต้องกำหนดให้ลูกค้าและผู้ใช้ปลายทางใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ Google Workspace (นอกเหนือจากบริการ) ได้โดยเป็นไปตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ของ Google Workspace และข้อกำหนดในการให้บริการของผลิตภัณฑ์ Google ที่เกี่ยวข้องนั้นๆ หากลูกค้าไม่ประสงค์ที่จะเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ของ Google Workspace ลูกค้าสามารถเปิดใช้หรือปิดใช้ได้ตลอดเวลาผ่านคอนโซลผู้ดูแลระบบ

      • 2.2 การดูแลระบบบริการของลูกค้า ลูกค้าสามารถระบุผู้ดูแลระบบ 1 คนหรือหลายคนผ่านทางคอนโซลผู้ดูแลระบบได้ ซึ่งเป็นผู้ที่จะมีสิทธิเข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบและดูแลบัญชีผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อ: (ก) การรักษาความลับของรหัสผ่านและบัญชีผู้ดูแลระบบ (ข) การมอบหมายบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงบัญชีผู้ดูแลระบบ และ (ค) การตรวจสอบว่าการกระทำทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากบัญชีผู้ดูแลระบบเป็นไปตามข้อตกลงนี้ ลูกค้ายอมรับว่าความรับผิดชอบของ Google ไม่รวมถึงการจัดการภายในหรือการดูแลระบบบริการสำหรับลูกค้า และ Google เป็นเพียงผู้ประมวลผลข้อมูลเท่านั้น ลูกค้ายอมรับว่าผู้ใช้ปลายทางอาจเพิ่มหรือซื้อแอปพลิเคชันของบุคคลที่สาม (ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อกำหนดและเงื่อนไขแยกต่างหาก) จาก Google Workspace Marketplace เพื่อการใช้งานในบัญชีผู้ใช้ปลายทางที่เจาะจงของตนเอง

      • 2.3 ชื่อแทน ลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการตรวจสอบ ตอบ และประมวลผลอีเมลที่ส่งถึงชื่อแทน "abuse" และ "postmaster" สำหรับชื่อโดเมนลูกค้า แต่ Google อาจตรวจสอบอีเมลที่ส่งถึงชื่อแทนเหล่านี้สำหรับชื่อโดเมนลูกค้าเพื่อช่วยให้ Google ค้นหาการละเมิดบริการได้

      • 2.4 คำยินยอมของผู้ใช้ปลายทาง ผู้ดูแลระบบของลูกค้าอาจมีสิทธิเข้าถึง ตรวจสอบ ใช้งาน หรือเปิดเผยข้อมูลที่ผู้ใช้ปลายทางใช้งานได้ภายในบัญชีผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้าต้องขอรับและรักษาคำยินยอมทั้งหมดที่จำเป็นจากผู้ใช้ปลายทางเพื่อให้ (1) ผู้ดูแลระบบสามารถเข้าถึง ตรวจสอบ ใช้งาน และเปิดเผยข้อมูลนี้ และเพื่อให้ Google กำหนดให้ลูกค้าสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ และเพื่อให้ (2) Google สามารถให้บริการได้

      • 2.5 การใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาต ลูกค้าต้องใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อป้องกันการใช้งานบริการที่ไม่ได้รับอนุญาต และยุติการใช้งานที่ไม่ได้รับอนุญาตใดๆ ก็ตาม ลูกค้าต้องแจ้งให้ Google ทราบถึงการใช้งานหรือการเข้าถึงบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตในทันทีเมื่อได้รับทราบ

      • 2.6 ข้อจำกัดเกี่ยวกับการใช้งาน ยกเว้นกรณีที่ Google ยอมรับอย่างเจาะจงเป็นลายลักษณ์อักษร ลูกค้าจะต้องไม่กระทำสิ่งต่อไปนี้ และต้องใช้ความพยายามอย่างสมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อตรวจสอบว่าบุคคลที่สามจะไม่กระทำสิ่งต่อไปนี้ (ก) จำหน่าย เป็นตัวแทนจำหน่าย ให้เช่าบริการนี้แก่บุคคลที่สาม หรือดำเนินการใดๆ ที่เทียบเท่ากันในเชิงการใช้งาน (ยกเว้นที่อนุญาตอย่างชัดเจนในข้อตกลงนี้) (ข) พยายามทำกระบวนการวิศวกรรมย้อนกลับต่อบริการหรือองค์ประกอบใดๆ (ค) พยายามสร้างบริการทดแทนหรือบริการที่คล้ายกันผ่านการใช้หรือการเข้าถึงบริการ (ง) ใช้บริการเพื่อกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง หรือ (จ) ใช้บริการเพื่อเก็บหรือโอนข้อมูลลูกค้าที่มีการควบคุมการส่งออกตามกฎหมายควบคุมการส่งออก และลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย HIPAA

      • 2.7 คำขอของบุคคลที่สาม ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบต่อการดำเนินการตอบสนองคำขอของบุคคลที่สาม Google ต้องดำเนินการภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนดและตามข้อกำหนดของคำขอของบุคคลที่สามเพื่อ (ก) แจ้งให้ลูกค้าทราบโดยทันทีเมื่อได้รับคำขอของบุคคลที่สาม (ข) ปฏิบัติตามคำขออันสมเหตุสมผลของลูกค้าเกี่ยวกับการพยายามที่จะคัดค้านคำขอของบุคคลที่สาม และ (ค) ให้ข้อมูลและเครื่องมือที่จำเป็นต่อลูกค้าในการตอบสนองคำขอของบุคคลที่สาม ในขั้นต้นลูกค้าต้องพยายามหาข้อมูลที่จำเป็นในการตอบสนองคำขอของบุคคลที่สามด้วยตนเอง และต้องติดต่อ Google เฉพาะเมื่อไม่สามารถขอรับข้อมูลดังกล่าวได้โดยมีเหตุผลอันสมควร

      • 2.8 นโยบายและข้อจำกัดในการใช้งาน ลูกค้าได้รับอนุญาตให้มีบัญชีผู้ใช้ปลายทางได้ 1 บัญชี ลูกค้าต้องปฏิบัติตามนโยบายและข้อจำกัดในการใช้งานเพิ่มเติมใดๆ เกี่ยวกับการใช้บริการตามที่ Google บังคับใช้เป็นครั้งคราว

      • 2.9 ผู้ใช้ปลายทาง ลูกค้ายอมรับว่าผู้ใช้ปลายทางจะปฏิบัติตามนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้และข้อบัญญัติอื่นใดที่เกี่ยวข้องของข้อตกลงนี้

    • 3. ค่าธรรมเนียม Google ต้องให้บริการโดยไม่เรียกเก็บเงินจากลูกค้า โดยมีเงื่อนไขคือลูกค้าต้องยอมรับว่า Google อาจ (ก) ให้บริการตัวเลือกเพิ่มเติมแก่ลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทางโดยมีค่าธรรมเนียม หรือ (ข) ให้บริการเวอร์ชันพรีเมียมโดยมีค่าธรรมเนียม Google อาจหยุดให้บริการเวอร์ชันที่ให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเสนอเฉพาะเวอร์ชันพรีเมียม ในกรณีนี้ Google ต้องแจ้งให้ทราบโดยสอดคล้องกับส่วนที่ 10 ของข้อตกลงนี้ และลูกค้าจะมีโอกาสแปลงเป็นเวอร์ชันพรีเมียม

    • 4. บริการสนับสนุนด้านเทคนิค ลูกค้ามีหน้าที่รับผิดชอบในการตอบคำถามและข้อร้องเรียนของผู้ใช้ปลายทางหรือบุคคลที่สาม เกี่ยวกับการใช้บริการของลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทาง Google จะเปิดให้ลูกค้าและผู้ใช้ปลายทางของลูกค้าใช้ศูนย์ช่วยเหลือได้

    • 5. การระงับ

      • 5.1 บัญชีผู้ใช้ปลายทางโดย Google หาก Google รับรู้ถึงการละเมิดข้อตกลงของผู้ใช้ปลายทาง Google อาจร้องขอเป็นการเฉพาะเพื่อให้ลูกค้าระงับบัญชีผู้ใช้ปลายทางที่เกี่ยวข้องนั้นได้ หากลูกค้าไม่สามารถปฏิบัติตามคำขอของ Google ในการระงับบัญชีของผู้ใช้ปลายทางได้ Google อาจดำเนินการเอง ระยะเวลาในการระงับโดย Google จะสิ้นสุดเมื่อผู้ใช้ปลายทางได้แก้ไขการละเมิดซึ่งทำให้เกิดการระงับนั้นๆ

      • 5.2 ปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน หากมีปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน Google อาจระงับการใช้งานที่ไม่เหมาะสมโดยอัตโนมัติโดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขข้างต้น การระงับจะอยู่ภายในขอบเขตและระยะเวลาต่ำสุดที่จำเป็นต่อการป้องกันหรือยุติปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน

    • 6. ข้อมูลที่เป็นความลับ

      • 6.1 ภาระหน้าที่ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้อง (ก) ปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายด้วยมาตรฐานความระมัดระวังเดียวกับที่ใช้คุ้มครองข้อมูลที่เป็นความลับของตนเอง และ (ข) ไม่เปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ ยกเว้นต่อบริษัทในเครือ พนักงาน และตัวแทนที่จำเป็นต้องทราบและได้ยินยอมที่จะรักษาข้อมูลที่เป็นความลับโดยเป็นลายลักษณ์อักษร คู่สัญญาแต่ละฝ่าย (และบริษัทในเครือ พนักงาน และตัวแทนที่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับ) ใช้ข้อมูลที่เป็นความลับได้เฉพาะเพื่อใช้สิทธิและปฏิบัติตามภาระหน้าที่ภายใต้ข้อตกลงนี้เท่านั้น พร้อมทั้งใช้ความระมัดระวังอย่างสมเหตุสมผลในการปกป้องข้อมูล คู่สัญญาแต่ละฝ่ายมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการกระทำของบริษัทในเครือ พนักงาน และตัวแทนของตนในการละเมิดส่วนนี้

      • 6.2 ข้อยกเว้น ข้อมูลที่เป็นความลับไม่รวมถึงข้อมูลต่อไปนี้ (ก) ข้อมูลที่เป็นความลับที่ผู้รับทราบอยู่แล้ว (ข) ข้อมูลที่กลายเป็นข้อมูลสาธารณะโดยไม่ใช่ความผิดของผู้รับ (ค) ข้อมูลที่ผู้รับพัฒนาขึ้นอย่างอิสระ หรือ (ง) ข้อมูลที่อีกฝ่ายมอบให้แก่ผู้รับโดยชอบธรรม

      • 6.3 การเปิดเผยที่จำเป็น คู่สัญญาแต่ละฝ่ายสามารถเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับของอีกฝ่ายได้เมื่อกฎหมายกำหนด แต่เฉพาะเมื่อฝ่ายนั้นดำเนินการดังต่อไปนี้แล้วในกรณีที่กฎหมายอนุญาต (ก) ใช้ความพยายามที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์เพื่อแจ้งให้อีกฝ่ายทราบ และ (ข) เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายคัดค้านการเปิดเผยดังกล่าว

    • 7. สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์

      • 7.1 สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ยกเว้นที่ระบุไว้อย่างชัดเจนในที่นี้ ข้อตกลงนี้ไม่ได้ให้สิทธิแก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทั้งโดยนัยและอื่นๆ ในเนื้อหาของคู่สัญญาอีกฝ่ายหรือในทรัพย์สินทางปัญญาของอีกฝ่าย ระหว่างทั้งสองฝ่าย ลูกค้าเป็นเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในข้อมูลของลูกค้า และ Google เป็นเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดในบริการ

      • 7.2 การแสดงสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์ Google สามารถแสดงสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์ที่ได้รับอนุญาตจากลูกค้า (การอนุญาตดังกล่าวมาจากการที่ลูกค้าอัปโหลดสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์เข้าสู่บริการ) ได้ภายในพื้นที่ที่กำหนดในหน้าเว็บบริการ ลูกค้าระบุลักษณะการใช้งานได้โดยใช้คอนโซลผู้ดูแลระบบ และ Google สามารถแสดงสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์ของ Google ในหน้าเว็บบริการเพื่อบ่งชี้ว่า Google เป็นผู้ให้บริการนี้ได้ ทั้งนี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายไม่สามารถแสดงหรือใช้สิ่งแสดงความเป็นแบรนด์ของอีกฝ่ายนอกเหนือไปจากที่อนุญาตตามข้อตกลงนี้ได้ โดยไม่ได้รับคำยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากอีกฝ่าย

      • 7.3 ข้อจำกัดเกี่ยวกับสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์ การใช้สิ่งแสดงความเป็นแบรนด์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของฝ่ายที่มีสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาในสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์นั้นๆ ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสามารถเพิกถอนสิทธิของอีกฝ่ายในการใช้สิ่งแสดงความเป็นแบรนด์ของตนตามข้อตกลงนี้ได้ พร้อมทั้งแจ้งให้อีกฝ่ายทราบเป็นลายลักษณ์อักษรและระบุระยะเวลาที่จะยุติการใช้งานอย่างสมเหตุสมผล

    • 8. การประชาสัมพันธ์ ลูกค้ายอมรับว่า Google สามารถรวมชื่อและสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์ของลูกค้าในรายชื่อลูกค้าของ Google ทั้งทางออนไลน์และในเอกสารส่งเสริมการขายได้ ลูกค้ายอมรับว่า Google อาจอ้างถึงลูกค้าในทางวาจาว่าเป็นลูกค้าของผลิตภัณฑ์หรือบริการของ Google ที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงนี้ ส่วนนี้ขึ้นอยู่กับส่วนที่ 7.3 (ข้อจำกัดเกี่ยวกับสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์)

    • 9. การรับรอง การรับประกัน และข้อจำกัดความรับผิด

      • 9.1 การรับรองและรับประกัน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับรองว่าตนมีอำนาจและสิทธิโดยสมบูรณ์ในการทำข้อตกลง คู่สัญญาแต่ละฝ่ายรับประกันว่าจะปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในการให้หรือใช้บริการ ตามแต่ละกรณี (รวมถึงกฎหมายการแจ้งเตือนเหตุการละเมิดด้านความปลอดภัย)

      • 9.2 ข้อจำกัดความรับผิด ภายในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด ยกเว้นที่ระบุอย่างชัดเจนในที่นี้ คู่สัญญาแต่ละฝ่ายไม่มีการรับประกันใดๆ ทั้งอย่างชัดเจน โดยนัย ตามกฎหมาย หรืออื่นๆ รวมถึงไม่มีการรับประกันข้อจำกัดคุณค่าความเป็นสินค้า ความเหมาะสมต่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใด และการไม่ละเมิด Google ไม่รับรองเกี่ยวกับเนื้อหาหรือข้อมูลใดๆ ที่เข้าถึงโดยหรือผ่านบริการ ลูกค้ารับทราบว่าบริการนี้ไม่ใช่บริการโทรศัพท์ และบริการนี้ไม่สามารถโทรออกหรือรับสาย รวมถึงสายบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ผ่านชุมสายสาธารณะ

    • 10. การบอกเลิก

      • 10.1 โดยลูกค้า ลูกค้าสามารถยุติการใช้บริการได้ตลอดเวลา

      • 10.2 โดย Google ลูกค้ายอมรับว่า Google สามารถบอกเลิกข้อตกลงนี้และ/หรือสิ้นสุดการให้บริการทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดได้ทุกเมื่อและด้วยสาเหตุใดก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงที่กล่าวมา Google ต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบอย่างน้อยสามสิบ (30) วันก่อนการสิ้นสุดหรือระงับบริการ โดยมีเงื่อนไขว่าบริการนั้นอาจสิ้นสุดโดยทันที หาก (1) ลูกค้าได้ละเมิดข้อตกลงนี้ หรือ (2) Google มีเหตุอันควรให้พิจารณาว่าการให้บริการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์

      • 10.3 ผลของการบอกเลิก หากข้อตกลงนี้สิ้นสุดลง (1) สิทธิที่คู่สัญญามีให้ต่ออีกฝ่ายจะสิ้นสุดในทันที (ยกเว้นที่กำหนดไว้ในส่วนนี้) (2) Google ต้องให้สิทธิในการเข้าถึงและความสามารถในการส่งออกข้อมูลลูกค้าแก่ลูกค้าเป็นระยะเวลาที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ และ (3) หลังจากระยะเวลาที่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ Google ต้องลบข้อมูลของลูกค้าโดยลบ Pointer ไปยังข้อมูลลูกค้าในเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานของ Google และเขียนทับเมื่อเวลาผ่านไป

    • 11. การชดใช้ค่าเสียหาย ลูกค้าจะชดใช้ค่าเสียหาย แก้ต่าง และให้ความคุ้มครอง Google จากความรับผิด ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายทั้งหมด (รวมถึงค่าชำระคดีและค่าทนายความที่สมเหตุสมผล) ที่เกิดจากการกล่าวอ้างของบุคคลที่สาม (1) เกี่ยวกับข้อมูลของลูกค้าและชื่อโดเมนของลูกค้า (2) ว่าสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์ของลูกค้าละเมิดหรือนำสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ ความลับทางการค้า หรือเครื่องหมายการค้าของบุคคลที่สามไปใช้ในทางที่ผิด หรือ (3) เกี่ยวกับการใช้บริการของลูกค้าที่ละเมิดนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ ฝ่ายที่ขอให้มีการชดใช้ค่าเสียหายจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบในทันทีเกี่ยวกับการกล่าวอ้างและร่วมมือกับอีกฝ่ายในการแก้ต่างการกล่าวอ้าง ฝ่ายที่ชดใช้ค่าเสียหายสามารถควบคุมและมีอำนาจในการแก้ต่างโดยสมบูรณ์ ยกเว้น (ก) การระงับคดีที่กำหนดให้ฝ่ายที่ขอให้มีชดใช้ค่าเสียหายเป็นผู้ยอมรับผิดหรือเป็นผู้ชำระเงินนั้น จะต้องได้รับคำยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากฝ่ายนั้นก่อน และต้องให้คำยินยอมดังกล่าวโดยไม่รีรอหรือล่าช้าโดยไม่สมเหตุผล และ (ข) อีกฝ่ายสามารถเข้าร่วมการแก้ต่างในคดีโดยมีทนายความของตนเองและแบกรับค่าใช้จ่ายเองได้

    • 12. ข้อจำกัดความรับผิด

      • 12.1 ข้อจำกัดความรับผิดโดยอ้อม ภายใต้ข้อตกลงนี้ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่ต้องรับผิดอันเนื่องมาจากการสูญเสียรายได้หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยอ้อม กรณีพิเศษ เกิดขึ้นเอง เป็นผลของเหตุการณ์อื่น เป็นข้อยกเว้น หรือเป็นบทลงโทษ แม้ว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทราบหรือควรทราบว่าความเสียหายดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ และแม้ว่าค่าเสียหายโดยตรงจะสูงเกินกว่าค่าชดเชยก็ตาม

      • 12.2 ข้อจำกัดเกี่ยวกับจำนวนเงินสำหรับความรับผิด คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่มีความรับผิดตามข้อตกลงนี้เกินกว่าหนึ่งพันดอลลาร์สหรัฐ ($1000 USD)

      • 12.3 ข้อยกเว้นของข้อจำกัด ข้อจำกัดความรับผิดเหล่านี้มีผลภายในขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แต่ไม่มีผลกับกรณีที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของอีกฝ่ายหรือภาระหน้าที่ในการชดใช้ค่าเสียหาย

    • 13. เบ็ดเตล็ด

      • 13.1 การแจ้งให้ทราบ ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในที่นี้ (ก) การแจ้งให้ทราบทั้งหมดต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษรและส่งถึงฝ่ายกฎหมายและผู้ติดต่อหลักของคู่สัญญาอีกฝ่าย และ (ข) จะถือว่าแจ้งให้ทราบแล้ว (1) เมื่อได้รับการยืนยันด้วยใบรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรหากส่งโดยผู้ให้บริการจัดส่งด้วยบุคคล การจัดส่งข้ามคืน หรือเมื่อได้รับหากส่งทางไปรษณีย์โดยไม่มีการยืนยันการรับ หรือ (2) เมื่อยืนยันโดยใบรับอัตโนมัติหรือบันทึกอิเล็กทรอนิกส์หากส่งทางโทรสารหรืออีเมล

      • 13.2 การมอบหมาย คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายมอบหมายหรือโอนส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อตกลงนี้ไม่ได้หากไม่ได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย ยกเว้นแก่บริษัทในเครือ แต่เฉพาะในกรณีที่ (ก) ผู้รับมอบหมายยอมรับอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะมีข้อผูกพันตามข้อกำหนดของข้อตกลงนี้ และ (ข) ฝ่ายมอบหมายยังคงมีความรับผิดต่อภาระหน้าที่ที่เกิดขึ้นภายใต้ข้อตกลงนี้ก่อนการมอบหมาย การพยายามโอนหรือมอบหมายใดๆ จะถือเป็นโมฆะ

      • 13.3 การเปลี่ยนการควบคุม เมื่อมีการเปลี่ยนการควบคุม (เช่น จากการซื้อหรือขายหุ้น การควบรวมกิจการ หรือธุรกรรมรูปแบบอื่นขององค์กร) (ก) ฝ่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงการควบคุมต้องแจ้งให้อีกฝ่ายทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรภายในสามสิบวันนับจากการเปลี่ยนแปลงการควบคุม และ (ข) อีกฝ่ายสามารถบอกเลิกข้อตกลงนี้ได้ทันทีและทุกเมื่อนับตั้งแต่การเปลี่ยนการควบคุมไปจนครบสามสิบวันนับจากที่ได้รับแจ้งอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรตามส่วนย่อย (ก)

      • 13.4 สิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายจะไม่มีความรับผิดต่อการดำเนินการที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ภายในขอบเขตที่เกิดจากเงื่อนไขต่างๆ (เช่น ภัยพิบัติตามธรรมชาติ สงครามหรือการก่อการร้าย จลาจล เหตุการณ์เกี่ยวกับแรงงาน การกระทำของภาครัฐ และความขัดข้องของอินเทอร์เน็ต) ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมที่สมเหตุสมผลของคู่สัญญา

      • 13.5 ไม่มีการสละสิทธิ์ การไม่บังคับใช้ข้อบัญญัติใดๆ ในข้อตกลงนี้ไม่ถือประกอบขึ้นเป็นการสละสิทธิ์ตามข้อบัญญัติ

      • 13.6 การแยกออกจากกันได้ หากข้อบัญญัติใดๆ ในข้อตกลงนี้ถูกชี้ขาดว่าไม่สามารถบังคับใช้ได้ ส่วนอื่นๆ ของข้อตกลงจะยังคงมีผลบังคับอย่างสมบูรณ์

      • 13.7 ไม่มีตัวแทน คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายเป็นผู้รับเหมาอิสระ และข้อตกลงนี้จะไม่ทำให้เกิดตัวแทน พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ หรือกิจการร่วมค้า

      • 13.8 ไม่มีผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม ข้อตกลงนี้ไม่มีผู้รับผลประโยชน์ที่เป็นบุคคลที่สาม

      • 13.9 การเยียวยา ไม่มีส่วนใดในข้อตกลงนี้ที่จะจำกัดสิทธิของคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการพยายามได้มาซึ่งการเยียวยา

      • 13.10 กฎหมายที่ควบคุม ข้อตกลงนี้อยู่ในบังคับของกฎหมายแห่งแคลิฟอร์เนีย เว้นแต่ในกรณีที่การเลือกกฎหมายของรัฐมีผลบังคับใช้ สำหรับการโต้แย้งใดๆ ที่เกิดจากหรือเกี่ยวข้องกับข้อตกลงนี้ คู่สัญญายินยอมที่จะยอมรับเขตอำนาจศาลและสถานที่พิจารณาเฉพาะโดยศาลยุติธรรมในซานตาคลาราเคาท์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย

      • 13.11 การแก้ไข การแก้ไขใดๆ จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นการแก้ไขข้อตกลงนี้

      • 13.12 การมีผลต่อไป ส่วนต่อไปนี้จะมีผลต่อไปแม้ว่าข้อตกลงนี้หมดอายุหรือสิ้นสุดไปแล้วก็ตาม: ส่วนที่ 6 (การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ) 7 (ทรัพย์สินทางปัญญาและสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์) 9 (การรับรอง การรับประกัน และข้อจำกัดความรับผิดชอบ) 10 (การบอกเลิก) 11 (การชดใช้ค่าเสียหาย) 12 (ข้อจำกัดความรับผิด) และ 13 (เบ็ดเตล็ด)

      • 13.13 ข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ ข้อตกลงนี้และเอกสารทั้งหมดที่อ้างอิงถึงในที่นี้ เป็นข้อตกลงทั้งหมดของคู่สัญญา เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ และมีผลแทนข้อตกลงก่อนหน้านี้หรือที่มีอยู่ในเรื่องนั้นๆ ข้อกำหนดใน URL ใดที่อ้างอิงถึงในข้อตกลงนี้จะมีการผนวกรวมไว้ในที่นี่ด้วยการอ้างอิงนี้

      • 13.14 การตีความข้อกำหนดที่ขัดแย้งกัน หากมีข้อขัดแย้งระหว่างเอกสารที่ประกอบเป็นข้อตกลงนี้ เอกสารจะมีผลบังคับตามลำดับต่อไปนี้: ข้อตกลง และข้อกำหนดที่อยู่ใน URL ใดๆ

    • 14. คำนิยาม

      • "นโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้" หมายถึงนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้สำหรับบริการซึ่งมีอยู่ที่ https://workspace.google.com/terms/use_policy.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจมีให้

      • "บัญชีผู้ดูแลระบบ" หมายถึงบัญชีสำหรับการดูแลระบบที่มีให้กับลูกค้าโดย Google เพื่อวัตถุประสงค์ในการดูแลระบบของบริการ การใช้บัญชีผู้ดูแลระบบต้องใช้รหัสผ่าน ซึ่ง Google จะให้แก่ลูกค้า

      • "คอนโซลผู้ดูแลระบบ" หมายถึงเครื่องมือออนไลน์ที่ Google จัดหาให้ลูกค้าเพื่อใช้ในการรายงานและฟังก์ชันการดูแลระบบอื่นๆ

      • "ผู้ดูแลระบบ" หมายถึงบุคลากรทางเทคนิคที่ลูกค้าแต่งตั้งให้ดูแลระบบของบริการที่มอบให้แก่ผู้ใช้ปลายทางในนามของลูกค้า

      • "โฆษณา" หมายถึงโฆษณาออนไลน์ที่ Google แสดงต่อผู้ใช้ปลายทาง

      • "บริษัทในเครือ" หมายถึงบุคคลที่ควบคุม ถูกควบคุม หรืออยู่ในการควบคุมระดับเดียวกับคู่สัญญา ไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อม

      • "สิ่งแสดงความเป็นแบรนด์" หมายถึงชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายการบริการ โลโก้ ชื่อโดเมน และสิ่งแสดงความเป็นแบรนด์อื่นๆ ที่โดดเด่นของคู่สัญญาแต่ละฝ่ายตามลำดับ ตามที่คู่สัญญานั้นครอบครองเป็นครั้งคราว

      • "ข้อมูลที่เป็นความลับ" หมายถึงข้อมูลที่เปิดเผยโดยฝ่ายหนึ่งแก่อีกฝ่ายภายใต้ข้อตกลงนี้ที่มีการทำเครื่องหมายว่าเป็นความลับ หรือถือเป็นความลับในกรณีปกติตามสถานการณ์นั้นๆ ข้อมูลลูกค้าคือข้อมูลที่เป็นความลับของลูกค้า

      • "ข้อมูลลูกค้า" หมายถึงข้อมูล รวมถึงอีเมล ที่ลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทางจัดหา สร้าง ส่ง หรือแสดงผ่านบริการ

      • "ชื่อโดเมนของลูกค้า" หมายถึงชื่อโดเมนที่ลูกค้าเป็นเจ้าของหรือผู้ควบคุม ซึ่งจะนำไปใช้ร่วมกับบริการ

      • "ปัญหาด้านความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน" หมายถึงข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ (ก) การใช้บริการของลูกค้าหรือผู้ใช้ปลายทางที่ละเมิดนโยบายการใช้งานที่ยอมรับได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความขัดข้องกับสิ่งต่อไปนี้ (1) บริการ (2) การใช้บริการของลูกค้ารายอื่น (3) เครือข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์ของ Google ที่ใช้ในการให้บริการ หรือ (ข) การเข้าถึงบริการโดยบุคคลที่สามที่ไม่ได้รับอนุญาต

      • "ผู้ใช้ปลายทาง" หมายถึงบุคคลที่ลูกค้าอนุญาตให้ใช้บริการ

      • "บัญชีผู้ใช้ปลายทาง" หมายถึงบัญชีที่โฮสต์โดย Google และกำหนดให้กับผู้ใช้ปลายทางโดยลูกค้าผ่านทางบริการ

      • "กฎหมายควบคุมการส่งออก" หมายถึงกฎหมายและกฎระเบียบที่ควบคุมการส่งออกและการส่งออกซ้ำทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎระเบียบการส่งออก (Export Administration Regulations หรือ "EAR") ที่กระทรวงพาณิชย์แห่งสหรัฐอเมริกาบังคับใช้ การลงโทษทางการค้าและเศรษฐกิจที่สำนักงานควบคุมสินทรัพย์ในต่างประเทศของกระทรวงการคลังบังคับใช้ และกฎระเบียบการขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ระหว่างประเทศ (International Traffic in Arms Regulations หรือ "ITAR") ที่กระทรวงการต่างประเทศบังคับใช้

      • "ศูนย์ช่วยเหลือ" หมายถึงศูนย์ช่วยเหลือของ Google ซึ่งเข้าถึงได้ที่ https://www.google.com/support/a หรือ URL อื่นๆ ที่ Google อาจมีให้

      • "กิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง" หมายถึงการใช้งานต่างๆ เช่น การปฏิบัติการของโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ การควบคุมจราจรทางอากาศ หรือระบบช่วยชีวิต โดยที่การใช้บริการหรือความล้มเหลวของบริการอาจนำไปสู่การเสียชีวิต การบาดเจ็บส่วนบุคคล หรือความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม

      • "HIPAA" หมายถึงกฎหมาย Health Insurance Portability and Accountability Act ปี ค.ศ. 1996 ตามที่อาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมเป็นครั้งคราว และกฎระเบียบต่างๆ ที่ออกภายใต้อำนาจของกฎหมายนี้

      • "สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา" หมายถึงสิทธิ์ทั่วโลกในปัจจุบันและอนาคต ภายใต้กฎหมายสิทธิบัตร กฎหมายลิขสิทธิ์ กฎหมายว่าด้วยความลับทางการค้า กฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า กฎหมายว่าด้วยสิทธิโดยชอบธรรม และสิทธิอื่นๆ ที่คล้ายกัน

      • "ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ของ Google Workspace" หมายถึงผลิตภัณฑ์ของ Google ที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของบริการ แต่ผู้ใช้ปลายทางอาจเข้าถึงได้โดยใช้ชื่อสำหรับเข้าสู่ระบบและรหัสผ่านของบัญชีผู้ใช้ปลายทาง ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ของ Google Workspace คือผลิตภัณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ URL ต่อไปนี้: https://www.google.com/support/a/bin/answer.py?answer=181865 หรือ URL อื่นๆ ที่ Google อาจมีให้

      • "ข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่ของ Google Workspace" หมายถึงข้อกำหนดที่อยู่ใน URL ต่อไปนี้: https://workspace.google.com/terms/additional_services.html หรือ URL อื่นๆ ที่ Google อาจมีให้

      • "อีเมลสำหรับการแจ้งเตือน" หมายถึงอีเมลที่ลูกค้ากำหนดให้ เพื่อรับการแจ้งเตือนทางอีเมลจาก Google ลูกค้าจะเปลี่ยนอีเมลนี้ได้ผ่านคอนโซลผู้ดูแลระบบ

      • "รายการ SDN" คือรายชื่อสัญชาติที่มีข้อกำหนดพิเศษของกระทรวงการคลังแห่งสหรัฐอเมริกา

      • "หน้าบริการ" หมายถึงหน้าเว็บที่แสดงบริการต่อผู้ใช้ปลายทาง

      • "บริการ" หมายถึงบริการต่างๆ ซึ่งมีคำอธิบายโดยละเอียดเพิ่มเติมที่นี่: https://workspace.google.com/terms/user_features.html หรือ URL อื่นที่ Google อาจมีให้

      • "ระงับ" หมายถึงการปิดใช้การเข้าถึงบริการหรือองค์ประกอบของบริการในทันที ตามที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้บริการต่อไป

      • "ระยะเวลา" หมายถึงระยะเวลาของข้อตกลง ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่มีผล และมีผลต่อไปจนถึงกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้ (1) ระยะเวลาสิ้นสุดของบริการล่าสุด หรือ (2) ข้อตกลงถูกบอกเลิกตามที่กำหนดไว้ในที่นี้ ขึ้นอยู่กับว่าข้อใดถึงก่อน

      • "คำขอของบุคคลที่สาม" หมายถึงคำขอบันทึกเกี่ยวกับการใช้บริการของผู้ใช้ปลายทางจากบุคคลที่สาม คำขอของบุคคลที่สามอาจเป็นหมายค้นตามกฎหมาย คำสั่งศาล หมายเรียก คำสั่งตามกฎหมายอื่นๆ ที่มีผลบังคับ หรือคำยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ใช้ปลายทางที่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูล